ลองนึกภาพว่าคนที่เรารักจากไปแล้ว แต่วันหนึ่งเรายังสามารถ "คุย" กับเขาได้อีก ผ่านข้อความ เสียง หรือแม้กระทั่งวิดีโอ... ฟังดูเหมือนหนังไซไฟใช่ไหมครับ แต่วันนี้มันเริ่มกลายเป็นจริงแล้วด้วยสิ่งที่เรียกว่า Deadbots AI หรือบางทีก็มีคนเรียกกันว่า Griefbots, Ghostbots หรือ AI Chatbot ของผู้ล่วงลับ
ในบทความนี้ผมอยากเล่าเรื่องราวให้ฟังแบบง่ายๆ สบายๆ ไม่เน้นศัพท์วิชาการมากนัก ให้เราได้รู้จักกันว่า Deadbots AI คืออะไร ทำงานยังไง และที่สำคัญคือมันจะส่งผลต่อจิตใจและสังคมเรายังไงบ้าง
Deadbots AI คือปัญญาประดิษฐ์ที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อ "จำลอง" บุคคลที่จากไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่ คนรัก เพื่อนสนิท หรือแม้แต่ศิลปินที่เราชื่นชอบ หลักการง่ายๆ ก็คือระบบจะนำข้อมูลจากบุคคลนั้น เช่น ข้อความแชทเก่าๆ อีเมล โพสต์โซเชียลมีเดีย หรือแม้กระทั่งเสียงกับวิดีโอ มาฝึกโมเดลให้สามารถ "พูดคุยโต้ตอบ" เหมือนเขาคนนั้น
พูดอีกแบบคือ Deadbots ไม่ได้ทำให้คนฟื้นคืนชีพจริงๆ หรอกครับ แต่สร้าง "ภาพจำลองดิจิทัล" ขึ้นมาเพื่อให้เรารู้สึกว่าเขายังอยู่ใกล้ๆ
ความตายเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ และมนุษย์เราก็มักหาทางเยียวยาความเศร้าเสมอ หลายคนคงเคยเก็บข้อความเก่า รูปถ่าย หรือเสียงไว้เพื่อระลึกถึงคนรักที่จากไป Deadbots AI ก็คือการพัฒนาอีกขั้น ที่ไม่ได้แค่เก็บความทรงจำ แต่ทำให้มัน "มีปฏิสัมพันธ์ได้" เหมือนคนยังอยู่ตรงนั้น
ยกตัวอย่างง่ายๆ อย่างในซีรีส์ Black Mirror ตอน "Be Right Back" ที่มีการสร้างหุ่นยนต์เลียนแบบคนรักที่เสียชีวิตมาแล้ว แม้จะเป็นเรื่องแต่ง แต่ปัจจุบันก็มีหลายสตาร์ทอัพที่พยายามทำสิ่งนี้จริงๆ เช่น Replika, HereAfter AI, StoryFile หรือ Project December
หลักๆ Deadbots จะอาศัยข้อมูลเก่าของผู้ตายเพื่อสร้างโมเดลบุคลิกภาพ เช่น:
เมื่อมีข้อมูลเพียงพอ AI จะเรียนรู้รูปแบบการพูด น้ำเสียง วิธีคิด และใช้มันมาตอบโต้กับเรา เช่น ถ้าเราเคยคุยกับแม่เรื่องอาหารโปรด ระบบอาจจดจำและพูดออกมาเหมือนแม่ยังอยู่ตรงหน้า
แม้ฟังดูหลอนๆ แต่หลายคนก็พบว่ามันช่วยเยียวยาจิตใจได้มาก ลองนึกภาพว่า:
นอกจากนี้ยังมีการใช้ในเชิงสารคดีและประวัติศาสตร์ เช่น การสร้าง AI ที่พูดแทนบุคคลสำคัญ เพื่อเล่าเรื่องราวชีวิตและแรงบันดาลใจให้คนรุ่นหลังฟัง
แต่แน่นอนว่าทุกเทคโนโลยีย่อมมีสองด้าน Deadbots AI ก็เช่นกัน มีหลายคำถามที่สังคมยังถกเถียง:
บางคนมองว่ามันคือการปลอบใจชั่วคราว แต่บางคนก็มองว่ามันคือการ "ขุดหลุม" ให้เราไม่สามารถยอมรับความจริงได้
ปัจจุบันมีหลายบริษัทที่พัฒนา Deadbots ขึ้นมาจริงๆ เช่น:
แม้แต่ในเกาหลีใต้ก็เคยมีกรณีทำ VR จำลองลูกสาวที่เสียชีวิต ให้แม่ได้พูดคุยและกอดอีกครั้ง ซึ่งทำให้ทั้งโลกสะเทือนใจ
เทคโนโลยียังอยู่ช่วงเริ่มต้น แต่ดูเหมือนว่ามันจะไปไกลได้อีกมาก ลองคิดดูว่าในอนาคต Deadbots อาจไม่ใช่แค่ข้อความหรือเสียง แต่เป็นร่างเสมือนจริงใน Metaverse ที่เราสามารถ "ใช้ชีวิตร่วม" ได้เลย
คำถามคือ มันจะเป็นการเยียวยาหรือเป็นการยืดความเจ็บปวดออกไป? บางทีคำตอบอาจแตกต่างกันไปในแต่ละคน
Deadbots AI คือเทคโนโลยีที่สะท้อนให้เห็นว่ามนุษย์เราไม่เคยหยุดค้นหาวิธีที่จะ "อยู่กับคนที่รัก" แม้เขาจะจากไปแล้ว แม้มันอาจไม่ได้แทนที่ความจริง แต่ก็ช่วยเยียวยาหัวใจได้ในระดับหนึ่ง
สุดท้ายแล้ว คำถามที่สำคัญอาจไม่ใช่ว่า "เราทำได้หรือไม่" แต่คือ "เราควรทำหรือเปล่า" ...
บางคนอาจเลือกใช้ Deadbots เพื่อบรรเทาความคิดถึง บางคนอาจมองว่ามันคือการหน่วงชีวิตไม่ให้ก้าวต่อ แต่ไม่ว่าอย่างไร Deadbots ก็คือสิ่งที่เกิดขึ้นจริงแล้วในโลกใบนี้ และเราเองที่จะเป็นคนตัดสินใจว่าจะให้มันเข้ามามีบทบาทกับชีวิตเรามากแค่ไหน
บทความนี้ไม่ได้ตั้งใจชี้นำให้ใครใช้หรือไม่ใช้ Deadbots แต่หวังเพียงว่าจะช่วยให้เราได้มองเห็นภาพกว้างๆ ของเทคโนโลยีที่กำลังเกิดขึ้น และตั้งคำถามกับมันด้วยมุมมองของตัวเราเอง